มวยMMA เป็นศิลปะการต่อสู้ในแบบฉบับที่โดดเด่นต่อสู้ในศาสตร์หลายๆ แขนงย่อมไม่มีใครไม่รู้จักกีฬาชนิดนี้และกีฬาการต่อสู้นี้กับการกีฬาต่อสู้ของชาติไทยที่เรียกว่ามวยไทยอาจจะมีความคล้ายคลึงกับการต่อสู้ของกันอยู่บ้าง ดังนั้นเทียบเคียงหาความต่างกันดูระหว่างมวยไทยจะเป็นอย่างไรลองมาติดตามกันดู
มวยMMA ในอดีตเป็นสังเวียนใต้ดิน
คนใดที่ได้รู้จักการต่อสู้ในสังเวียนใต้ดินมาก่อนแล้วต่างยอมรับกันอย่างแพร่หลายว่าในระยะเวลาที่ผ่านมาหลายปีนี้การต่อสู้แบบชั้นใต้ดินมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและได้รับความนิยมมากขึ้นนั่นคือการต่อสู้แบบมวยในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นศาสตร์ของศิลปะแห่งการต่อสู้ได้อย่างเต็มที่เพราะยังมีความแตกต่างกับมวยพื้นบ้านที่โด่งดังระดับโลกอย่างมวยไทยและยังเป็นมวยที่ไร้ช่องโหว่กันอยู่พอสมควร
Maxed Martial Art หรือมวยMMA
เป็นการต่อสู้ที่รวบรวมเอาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานและนำศิลปะการต่อสู้มากมายหลายศาสตร์หลายแขนงนำมารวมไว้อยู่ด้วยกัน มีตั้งแต่มวยสากล มวยไทย มวยปล้ำ ยูโด คาราเต้และทุกชนิดของการป้องกันตัวหรือทุกชนิดของการต่อสู้ทั้งเตะ ต่อย เข่าศอกเพื่อทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ในเกมการแข่งขันนั้น ๆ หรือทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ไม่สามารถต่อสู้ต่อได้
ทวีปเอเชียแหล่งรวมศิลปะการต่อสู้และแหล่งผสมผสานมวยMMA ในทวีปเอเชียนับเป็นสถานที่ที่ถือกำเนิดของศาสตร์ศิลปะป้องกันตัวมากมายตั้งแต่มวยไทย มวยกัมพูชา คาราเต้กังฟู ยูยิตสู มวยกาลีตลอดจนศิลปะการป้องกันตัวแบบผสมและศิลปะการป้องกันตัวอื่นๆ ถือเป็นการพัฒนาการการป้องกันตัวที่น่าตื่นตาตื่นใจและนับว่าเป็นอนาคตใหม่ที่น่าจับตามองของการป้องกันตัวเป็นอย่างยิ่งครบถ้วนโดยการต่อสู้แบบแบบล็อกจับยึดจากทุ่มทั้งการยืนนอนนั่งนับเป็นเกมกีฬาที่มีความอันตรายและความดุเด็ดเผ็ดมันไม่ใช่น้อย
ในการตัดสินการแพ้ชนะMaxed Matial Art หรือมวยMMA การต่อสู้ของเกมย่อมจะต้องมีการตัดสินแพ้ชนะทั้งเกมการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นการน็อกเอาท์ที่ผู้ต่อสู้ไม่สามารถต่อสู้ต่อได้จากการเข้าปะทะของฝ่ายหนึ่ง หรือการยอมแพ้จากปากของผู้เข้าแข่งขัน นี้เพราะรู้ดีว่าไม่สามารถจะต่อสู้ได้แล้วและไม่อยากจะทำให้เสียโอกาสในการต่อสู้ในหน้าถัดไปจึงทำการยอมแพ้ การยุติการแข่งขันจากกรรมการ สมควรว่าควรจะยุติการแข่งขันเพราะคู่ต่อสู้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเจ็บหนักกรรมการจะยุติการแข่งขันทันทีเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อชีวิตและร่างกายต่อไป การตัดสินแพ้ชนะโดยพี่เลี้ยงนักกีฬาเป็นฝ่ายยอมแพ้ การตัดสินเช่นนี้เมื่อพี่เลี้ยงทั้งหลายต่างลงความเห็นกันแล้วว่านักกีฬาของตนไม่สามารถจะทำการชกต่อได้หรือเป็นการคาดคะเนและคำนวณการเจ็บตัวของนักกีฬาของตนแล้วจึงทำการโยนผ้าขึ้นบนเวทีเพื่อเป็นสัญญาณบอกกับคณะกรรมการว่าฝ่ายตนขอยุติการชกเป็นการยอมแพ้
ความแตกต่างระหว่างกีฬาของมวยไทยและกีฬาการต่อสู้แบบมวยMMA เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันให้ดีว่าในการแข่งขันมวยไทยสามารถใช้อาวุธได้หลายอย่าง และ ก็สามารถใช้หมัดเท้าเข่าศอกได้เหมือนมวยไทยทุกอย่างแต่ในการแข่งขันชกมวยไทยจะไม่มีการต่อสู้ในรูปแบบท่านอนหรือท่านั่ง นี่จึงเป็นข้อแตกต่างระหว่างมวยไทยกับ MMA แต่ถ้าเป็นการต่อสู้กันอยู่วงนอกไม่มีการจับล็อคถือว่ามวยไทยมีความได้เปรียบและมีโอกาสที่มวยไทยจะเป็นทำคะแนนหรืออาจจะชนะน็อก ได้อย่างแน่นอน
ศาสตร์ของมวยไทยไปต่อสู้กับมวยMMA ในสังเวียน ในการนำศิลปะแม่ไม้มวยไทยเข้าไปทำการต่อสู้กับสังเวียน MMA แล้วนักมวยไทยจะต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเพราะมีการเข้าประชิดตัวเพื่อจับลองจับทุ่มแต่มวยไทยจะเป็นทรงยาวๆที่สามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ได้ด้วยการเตะหนักๆแต่ด้วยการวิธีเช่นนี้ก็สามารถทำให้ประชิดตัวได้เช่นกันดังนั้นไม่ว่าจะเป็นนักมวยไทยหรือมวยสากลเข้ามาสู่สังเวียน แล้วนักชกและพี่เลี้ยงต้องทำการฝึกฝนและทำการบ้านอย่างหนัก
สภาพจิตใจของนักมวยMMA ที่มีศิลปะของนักต่อสู้ผสมผสาน ในการต่อสู้แบบผสมผสานที่ใช้ศาสตร์ของการต่อสู้เข้ามาผสมกันอยู่ในสายเดียวกันนี้ นักกีฬาที่คิดจะพาตัวเองเข้ามาสู่จุดนี้จะต้องผ่านการฝึกฝนและเทียบกรัมเป็นอย่างหนักทั้งสภาพจิตใจและร่างกายให้คงทนและรับได้กับความกดดันที่จะต้องเจอในการฝึกซ้อมและการแข่งขันดังนั้นจิตใจที่เข้มแข็งแข็งแกร่งและสภาพร่างกายที่ฝึกบินเท่านั้นที่จะทำให้นักกีฬาเหล่านี้ไปยังจุดที่ตนต้องการได้สูง
ดังนั้นความมุ่งมั่นที่จะพาตัวเองไปสู่จุดสูงสุดของมวยMMA เป็นสิ่งที่การต่อสู้โดยการใช้ศาสตร์ของศิลปะระดับนี้จะต้องมีความมุ่งมั่นและก้าวผ่านความเจ็บปวดที่ได้รับการฝึกฝนมาได้เป็นอย่างดีและจะทำให้มีความมั่นใจและแน่ใจเกิดขึ้นกับตนเองได้อย่างมากดังนั้นหากมีความมุ่งมั่นที่จะไปอยู่บนจุดสูงสุดอันเป็นที่หลายๆคนต้องการและให้การยอมรับจะต้องทำการฝึกฝนด้วยระดับแรงใจและแรงกายและความมุ่งมั่นที่จะก้าวผ่านความเจ็บปวดนี้ไปให้ได้